นั่นก็คืองานที่หนักหนาเอาการเลยทีเดียว เพราะนครปฐมคือทีมที่การเล่นในบ้านได้ดีมากๆ สุดท้ายแล้วผลการแข่งขันก็เป็นไปตามคาดอย่างที่คิดไว้ เมื่อพวกเขาบุกไปแพ้ด้วยสกอร์ 0-2 ส่งให้เจ้าบ้านได้ฉลองแชมป์ในรังเหย้าของตัวเองพร้อมสิทธิ์ในการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด แต่ด้วยผลการแข่งขันของสนามอื่นที่เป็นใจ จึงทำให้สมุทรปราการฯ รอดตกชั้นและได้อยู่สู้ต่อในฤดูกาลนี้นั่นเอง

และได้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้างในเวลาเพียงแค่ 5 เดือนกว่าๆ ที่เกือบตกชั้นเปลี่ยนเป็นลุ้นเลื่อนชั้น พวกเขาพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างไร วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบดังกล่าวกัน อันดับแรกต้องบอกว่าธนา ชะนะบุตร คือเฮดโค้ชของทีมในฤดูกาลนี้

แน่นอนว่าเขาคืออดีตนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยประสบการณ์และชื่อเสียงในการเล่นฟุตบอลที่สั่งสมมา ก็ทำให้เขามีบารมีมากพอที่จะเป็นศูนย์รวมใจของน้องๆ ภายในทีมได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ซึ่งเมื่อรวมใจรวมพลังกันได้แล้ว มันก็ย่อมส่งผลให้สโมสรมีผลการแข่งขันที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งก็ไม่ได้มีเพียงแค่ “โค้ชแมน” เท่านั้น เพราะบรรดาสตาฟฟ์โค้ชที่เข้ามาช่วยงาน ก็ล้วนแต่เคยมีประสบการณ์ผ่านเวทีไทยลีกหรือมีธงติดที่หน้าอกมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปิยะชาติ ถามะพันธ์, ปกาศิต แสนสุข หรือปฏิภาณ เพชรพูล แน่นอนว่าด้วยชื่อเสียงของโค้ชทุกคนที่กล่าวมา ยังไงเด็กๆ ในทีมก็ไม่ต้องเกรงใจและเชื่อฟังอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ พวกเขายังทำการตลาดได้น่าสนใจมากๆ เพราะได้ทำการเซ็นสัญญากับปิยพล ม่วงมี หรือจีโน่ เดอะ สแน็ค ยูทูปเบอร์ชาวไทยที่มีผู้ติดตามกว่า 4 ล้านคนในช่องของตัวเองให้มาช่วยปลุกกระแสของทีม ซึ่งก็ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ เพราะในวันที่เพจสโมสรลงข่าวดังกล่าว ก็มีการแชร์ออกไปถึง 460 ครั้งด้วยกัน ไม่ต้องแปลกใจถ้าพวกเขาจะได้รับการพูดถึงบนโลกโซเชียล หรือได้จำนวนแฟนคลับเพิ่มจากตรงส่วนนี้

ทัพทีม สมุทรปราการ ซิตี้ ลงทะเบียนนักเตะต่างชาติไปทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ซึ่งนอกจากโช ชิโมจิ ที่มีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลที่เมืองไทยมาก่อนแล้ว บรรดานักเตะ 3 รายที่เหลือ ถือเป็นของใหม่ถอดด้ามทั้งหมด ทั้งคู่หูบราซิลอย่างเฟอร์นานโด เวียน่า กับบิยาโน่ เนโต้ และลี ซาง จิน มิดฟิลด์สัญชาติเกาหลีใต้