หงส์แดงลิเวอร์พูล เล่นจนเหนื่อยกว่าจะคัมแบ็กกลับมา

หงส์แดงลิเวอร์พูล เล่นจนเหนื่อยกว่าจะคัมแบ็กกลับมา หนึ่งในจุดเด่นของ ทีม ในพักหลังนั้นคงจะหนีไม่พ้นการเป็น “จอมคัมแบ็ก”

หงส์แดงลิเวอร์พูล เพราะมีหลายนัดที่พวกเขาตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งไปก่อน 0-1 แต่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ในท้ายที่สุดจนทำให้ทีมได้รับชัยชนะอย่างไรก็ตาม ในมุมมองของแฟนบอลแล้วนั้นมันก็คงจะดีกว่าถ้าทีมรักของพวกเขาจะเป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 แล้วรักษาสกอร์ได้หรือทำประตูเพิ่มได้จนเก็บชัยชนะไปครองบ้าง ไม่ใช่ต้องมาลุ้นเหนื่อยๆ แบบนี้ ซึ่งวันนี้เราจะมาเปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจกับการตามหลังไปก่อนของ ทีม สักหน่อย

หงส์แดงลิเวอร์พูล 5.13 ครั้ง คือค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งที่ ทีม ปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสลองยิงใส่พวกเขาภายในช่วงครึ่งแรกของเกม พรีเมียร์ลีก

ถ้าหากจะนับตั้งแต่ฤดูกาลก่อนนั้น โดยจะคิดเป็นค่าเฉลี่ยต่อ 90 นาที ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาที่เป็นอันดับ 3 ที่โดนคู่แข่งส่องใส่บ่อยที่สุดในช่วง 45 นาทีแรกเลยทีเดียวสำหรับอันดับ 1 ในชาร์ตนั้นได้แก่ สเปอร์ส ที่จำนวน 6.83 ครั้ง ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยค่าเฉลี่ย 5.35 ครั้ง ขณะที่ในจำนวน 5.13 ครั้งของ ทีม มันก็มีถึง 2.15 ครั้งที่เป็นการยิงตรงกรอบด้วย ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะเสียประตูไปก่อนบ่อยๆ

นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2022-23 ทีม เสียประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไปทั้งหมด 53 ลูก ซึ่งในจำนวนนั้นมีถึง 20 ประตูที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ขณะที่ในระหว่างนาทีที่ 31-60 พวกเขาโดนพังตาข่ายไป 19 หน ส่วนจำนวนประตูที่เสียในระหว่างนาทีที่ 61-90 ขึ้นไปอยู่ที่ 14 ลูก

ทั้งนี้ ถ้าหากแบ่งให้ลึกลงไปอีกด้วยการแบ่งเกมการเล่นเป็นช่วงละ 15 นาทีแล้วล่ะก็ มันก็จะพบว่าตั้งแต่เริ่มเกมจนถึงนาทีที่ 15 ถือเป็นช่วงเวลาที่ ทีม เสียประตูในลีกมากที่สุดหากนับตั้งแต่ตอนเริ่มซีซั่นก่อน ด้วยจำนวน 10 ประตูเลยทีเดียว โดยหากคิดเป็นค่าเฉลี่ยแล้วนั้น ทีม ก็เสียประตูในช่วงนี้ 0.22 ลูก ซึ่งก็ถือว่ามากที่สุดเท่ากับระหว่างนาทีที่ 16-30 และในช่วงนาทีที่ 46-60 เลย

อย่างที่บอกไปว่า ทีม มักจะกลับมาได้บ่อยๆ ซึ่งสิ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนั้นได้ดีกว่าอะไรทั้งหมดก็คือหากนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2022-23 แล้วนั้น พวกเขาก็พลิกสถานการณ์จนโกยไปได้ถึง 24 คะแนน จากจำนวน 21 เกมที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน แบ่งเป็นการชนะ 6 เกม, เสมอ 6 นัด และแพ้ 9 หน

ในผลงานแบบนั้นก็จะทำให้ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นทีมที่ได้เก็บแต้มจากเกมที่ได้ตามหลังคู่แข่งไปก่อนได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยได้แพ้ คริสตัล พาเลซ ไปฉิวเฉียดมากด้วยในเพียง 1 คะแนนเท่านั้น