Balltidjor.com

ดาร์วินนูนเญซ ต้องให้เวลาได้ปรับตัวกับทีมหงส์มากขึ้น

อัพเดทเมื่อ 19 กรกฎาคม 2023 เข้าดู 0 ครั้ง

ดาร์วินนูนเญซ จะถูกมองว่าล้มเหลวในฤดูกาลแรกบนสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล แต่หากให้ความเป็นธรรมกับเขาอีกสักหน่อย

ดาร์วินนูนเญซ ตอนอยู่ เบนฟิก้า เคยมีช่วงเวลาตีนบอดยิงประตูไม่ได้นานถึง 4 เดือนด้วย ก่อนจะมาเร่งเครื่องในช่วงท้ายฤดูกาลและจบปีแรกด้วยยอดรวม 14 ประตูจาก 44 นัด ยิงได้น้อยกว่าอยู่ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลที่แล้วอีกต่างหาก แต่มาระเบิดฟอร์มยิงได้ 34 ประตู ในฤดูกาลที่สอง โดยที่ 2 จาก 34 ลูกคือการยิง ลิเวอร์พูล ได้ทั้งเหย้าและเยือน จนเข้าตา คล็อปป์ และทุ่มเงินซื้อตัวมาร่วมทีมในที่สุด

ดาร์วินนูนเญซ ต้องให้เวลาได้ปรับตัวกับทีมหงส์มากขึ้น

ดาร์วินนูนเญซ มีฟอร์มที่ค่อนข้างดีในช่วงท้าย ๆ ฤดูกาล โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 18 กุมพาพันธ์เป็นต้นมา

และเขากลับมายืนเป็นกองหน้าตัวกลางอีกครั้งใน 2 นัดสุดท้าย ซึ่งในช่วงนั้น คล็อปป์ เองก็เริ่มผุดไอเดียในการใช้ระบบใหม่ ๆ และได้ทำการทดลองอะไรหลายอย่างทั้งการนำ เทรนต์ มาเล่นกลาง หรือลองสลับดีเทลของเกมรุกหลายรูปแบบ จนสื่อเมืองนอกวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ว่าในฤดูกาลใหม่นี้ เขา อาจจะกลับมายึดตำแหน่งกองหน้าตัวกลางเต็มตัว ส่วน กัคโป อาจถอนมายืนกลางรุกหรือไม่ก็ขยับไปยืนด้านซ้ายก็เป็นไปได้หลายออปชั่น

ยิ่งมีตัวเลือกในแดนกลางใหม่ ๆ อย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซบอสไล ที่จะเข้ามาช่วยให้แดนกลางมีมิติมากขึ้นไปอีก น่าจะทำให้ เขา มีผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะจุดเด่นของ ตัวเขา คือการวิ่งเอาชนะไลน์แนวรับ มีการอ่านเกมที่ดี วิ่งฉีกตัวประกบหรือทะลุผ่านกับดักล้ำหน้าเก่ง บวกกับ กฏใหม่ในเรื่องล้ำหน้าที่ค่อนข้างเอื้อประโยชน์ให้ตัวรุกด้วยแล้ว มีโอกาสในการที่จะทำประตูได้เยอะกว่าเดิมค่อนข้างสูง

ขณะที่ โซบอสไล เองก็มีตัวเลขในการจ่ายบอลสำเร็จสูงเป็นอันดับ 3 และมีคีย์พาสสูงเป็นอันดับ 4 จากกองกลางในบุนเดสลีกาฤดูกาลที่แล้วทั้งหมด เขาสร้างโอกาสได้ถึง 77 ครั้ง และจ่ายบอลในกรอบเขตโทษสำเร็จอีก 177 ครั้ง เมื่อเทียบกับกองกลางของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลที่แล้ว โซบอสไล ทำในจุดนี้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่อาจช่วยให้ เขา มีโอกาสจบสกอร์มากขึ้นก็เป็นได้

แน่นอนว่าเสื้อเบอร์นี้มันหนักอึ้ง มีความคาดหวังจากแฟนบอลและสื่อก็พร้อมถล่มเขาได้ทุกเมื่อ แต่อย่าลืมว่าในปีที่ผ่านมาเขาก็แบกรับเรื่องพวกนี้มาตลอด ทั้งในเรื่องค่าตัวและฟอร์มการเล่น แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่ามีหัวใจที่แข็งแกร่ง หนักแน่นมากพอที่จะผ่านมันไปได้

ลิเวอร์พูล 2023-24 มีหลายสิ่งเปลี่ยนไป เป็นการถ่ายเลือดครั้งใหญ่อีกครั้งของทีม ซึ่งบางทีอาจเป็นปีที่ ตัวเขา เติบโตและก้าวผ่านจากดาวรุ่งไปเป็นแข้งระดับท็อปเต็มตัว เหมือนที่เคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อตอนอยู่กับ เบนฟิก้า ก็เป็นได้

ดาร์วินนูนเญซ ต้องให้เวลาได้ปรับตัวกับทีมหงส์มากขึ้น

ช่องทางติดตาม

เว็บไซต์ : บอลติดจอ

แฟนเพจเฟสบุ๊ค : บอลติดจอ

ช่องยูทูป : Sports7m

ช่อง tiktok : Ball_tidjor

Line Official : @Sports7m

ข่าวกีฬา ล่าสุด